สถานะของห้อง Lube Room มีบทบาทสําคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องจักรเป็นอย่างมาก. ห้อง Lube Room ที่สะอาดและมีการจัดระเบียบอย่างดี ช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้ํามันหล่อลื่นจะสะอาดและไม่มีความชื้นเมื่อเข้าไปในเครื่อง ในขณะที่ห้อง Lube Room ที่สกปรกส่งผลให้เกิดน้ำมันหล่อลื่นที่ปนเปื้อนและเสื่อมสภาพ ซึ่งทําให้เกิดต้นทุนการซ่อมเพิ่มขึ้นและชํารุดบ่อยครั้ง. ในบทความนี้ เราจะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในห้อง Lube Room 5 ประการที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและยืดอายุการใช้งานเครื่องจักรได้


1. จัดเก็บอย่างมีระบบและเหมาะสม
 
- ถังน้ำมันควรเก็บไว้ในอาคารให้ห่างจากการปนเปื้อนที่อาจเกิดจากฝุ่นและความชื้น.

- ควรเก็บถังในที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เพราะความแปรผันของอุณหภูมิในพื้นที่จัดเก็บทําให้ถังน้ํามันมี “breathe.”
- หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการจัดเก็บกลางแจ้ง ให้ใช้ที่คลุมถังเป็นการชั่วคราว.

ทางเลือกที่ดียิ่งขึ้นคือการลงทุนในระบบ Color-Coded Oil Storage System. ช่วยให้การควบคุมการปนเปื้อนและการติดฉลากเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในรูปแบบที่ง่ายและประหยัดพื้นที่. การใช้ Air Breather แบบดูดความชื้นคุณภาพสูงจะช่วยป้องกันความชื้นและสิ่งสกปรก. เจลดูดความชื้นจะดักจับและกักเก็บความชื้นจากอากาศเมื่อถังมีการ “breathes.”

2. ดําเนินการบํารุงรักษาและตรวจสอบห้อง Lube Room อย่างเหมาะสม

- ควรมีการตรวจสอบห้องหล่อลื่น. มุ่งเน้นไปที่การระบุสัญญาณของการปนเปื้อน การรั่วไหล หรือความเสียหายต่อถังน้ำมัน. ช่วยป้องกันการสูญเสียสารหล่อลื่นและรับประกันสภาพแวดล้อมในการจัดเก็บที่ปลอดภัย.


นอกจากนี้ การสร้างระบบการหมุนเข้าก่อนออกก่อน (FIFO) วิธีการนี้ช่วยรักษาความสดและประสิทธิผลของสารหล่อลื่น.ส่งผลให้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพที่ดี และลดต้นทุนในการกำจัดน้ำมันที่เก่าหรือเสื้อมสภาพ

3. ต้องมีระบบการติดฉลาก (Label)
 
- ฉลากที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจนบนภาชนะบรรจุน้ํามันหล่อลื่นก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สําคัญต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการปฏิบัติงาน.น้ํามันหล่อลื่นที่ระบุผิดอาจถูกนํามาใช้โดยไม่ได้ตั้งใจในเครื่องที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ประสิทธิภาพของน้ํามันหล่อลื่นลดลง และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์.


การขาดการติด Label ที่เหมาะสมยังก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ซ่อมบํารุงอาจไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับคุณลักษณะและอันตรายของสารหล่อลื่นที่พวกเขากําลังจัดการ. ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกนำใช้งานที่ไม่เหมาะสมไปจนถึงการใช้ PPE ที่ไม่เพียงพอ.

4. ใช้เครื่องมือที่ถูกต้องและแยกตามประเภทของสารหล่อลื่น

- ผลที่ตามมาหากจัดการน้ํามันหล่อลื่นไม่ดีคือ การปนเปื้อน. สารปนเปื้อน เช่น ฝุ่น สิ่งสกปรก และเศษซาก เข้าไปในสารหล่อลื่นระหว่างการถ่ายโอนหรือการจ่าย และเร่งการสึกหรอของส่วนประกอบเครื่องจักร.

- หลีกเลี่ยงการใช้กรวยเติมน้ำมัน มักพบฝุ่นเกาะแน่นหรือไม่รู้ว่าถูกเอาไปใช้กับสารหล่อลื่นอะไรมาก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดการปนเปื้อนแบบ "Cross Contamination".

ใช้ขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้สําหรับการจัดการน้ํามันหล่อลื่นได้รับการดูแลให้สะอาด. และภาชนะเฉพาะประเภทของสารหล่อลื่น เพื่อป้องกันการปนเปื้อน.

5. จัดการฝึกอบรมให้พนักงาน

การไม่มีการฝึกอบรมเรื่องการหล่อลื่น อาจเป็นสาเหตุให้เจ้าหน้าที่ซ่อมบํารุงขาดความรู้และทักษะที่จําเป็นเพื่อจัดการสารหล่อลื่นที่เหมาะสม ซึ่งอาจทําให้เกิดการทํางานผิดปกติ เกิดการรั่วไหล หรือการปนเปื้อนของน้ํามันหล่อลื่นได้.  ดังนั้น การฝึกอบรมจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานไม่ทำงานผิดพลาดจากความสับสน และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

บทสรุป

การจัดการแนวทางปฏิบัติในห้อง Lube Room อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสําคัญในการรักษาคุณภาพของสารหล่อลื่น ความน่าเชื่อถือของเครื่องจักรและลดต้นทุนที่ไม่จําเป็น. ด้วยการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การจัดเก็บ การตรวจสอบ การฝึกอบรม และเครื่องมือขนย้ายสารหล่อลื่นที่เหมาะสม

ที่มา https://www.machinerylubrication.com/Read/32613/5-lube-room-mistakes-that-are-costing-you-money-